บิทคอยน์ โลกยุคใหม่ที่ก้าวไปกลับสกุลเงินดิจิตอล

เปิดโลกใบใหม่เข้ามาได้เลยกับเรากับเรื่องราวของ บิทคอยน์ หนึ่งในรูปแบบของสกุลเงินดิจิตอล หรือที่ทุกท่านได้รู้จักกันในนามของคริปโตเคอเรนซี่ สิ่งนี้นั้นยังเป็นกระแสที่ร้อนแรงกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าคุณจะเริ่มเห็นbitcoin กับสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ ที่แน่นอนว่าเข้ามามีบทบาทบนโลกยุคปัจจุบันได้อย่างเหลือเชื่อกันเลยทีเดียว โดยในตอนนี้ถ้าใครเริ่มสนใจในการลงทุนใน bitcoin แล้วเราก็ควรที่จะเรียนรู้ข่าวสารต่างๆ อย่างครบครันรอบด้านก่อนตัดสินใจในการเริ่มต้น โดยนี่เป็นหนึ่งในข้อมูลต่างๆ ที่เราอยากจะนำเสนอให้ทุกท่านได้รู้จักกันเลยอย่างชัดเจนว่าbitcoin นั้นคืออะไร และถ้ารู้ทุกเรื่องก่อนเข้าไปสู่ตลาดการลงทุน คุณจะเป็นผู้ได้เปรียบแบบสุดๆ คอนเฟิร์มได้เลย

แฉกันแบบชัดเจนว่า อะไรคือ บิทคอยน์

เอาละในตอนนี้เปิดโลกใบใหม่มาได้เลยกับเราในการเรียนรู้ บิทคอยน์ ซึ่งในตอนนี้อยากจะบอกให้ทุกท่านได้ทราบกันเลยว่า bitcoin นั่นก็คือสกุลเงินดิจิตอลสกุลแรกของโลกเลยนะ ที่ถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชน และแน่นอนว่าเจ้าสิ่งนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับตรวจสอบธุรกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ bitcoin และหัวใจของ bitcoin นั่นก็คือการกระจายศูนย์ที่ปราศจากการควบคุมจากตัวกลาง หรือการดูแลกำกับใดๆ จากภาครัฐบาลตลอดจนธนาคารใดๆ บนโลกใบนี้กันเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่สามารถมีความอิสรเสรีสูงเป็นอย่างมาก โดยธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ bitcoin แต่ละรายการนั้น แน่นอนว่าจะถูกจดบันทึกไว้ในบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ จึงทำให้ยากที่จะย้อนกลับ หรือดัดแปลงตลอดจนการทำลายธุรกิจเหล่านั้นอีกด้วย โดยจำนวน bitcoin นั้นมีอยู่จำกัดที่ประมาณ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งนับเป็นข้อมูลล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดย bitcoin ที่ถูกขุดไปแล้วกว่า 18.97 ล้านเหรียญหรือ 90 เปอร์เซ็นต์ของจำนวน bitcoin ทั้งหมดโดยมีการคาดการณ์ว่า bitcoin จุดประมาณปี 2140 นั่นเอง

คำถามที่หลายคนอยากรู้ ใครล่ะที่เป็นผู้สร้าง บิทคอยน์

เครือข่ายของ บิทคอยน์ นั้น ได้มีการถือกำเนิดในเดือนมกราคมปี 2009 โดยผู้สร้างที่ใช้นามแฝงว่าซาโตชิ นากาโมโตะ โดยแน่นอนว่าตัวตนที่แท้จริงของผู้ที่ชื่อซาโตชิดังกล่าวนี้ ก็ยังคงเป็นปริศนา โดยไม่ว่าจะมีคนบางกลุ่มพยายามค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเขามาบ้างแล้วก็ตาม แต่บางคนก็ตั้งข้อสงสัยต่างๆ นานาว่าเหตุผลโดยตรงที่ซาโตชินั้นไม่ยอมเปิดเผยตัวตนของเขา อาจเป็นเพราะเขาต้องการรักษาหัวใจสำคัญของ bitcoin เอาไว้นั่นก็คือการกระจายศูนย์ ทำให้ bitcoin นั้นไม่ขึ้นอยู่กับตัวกลางที่ใด เพราะถ้าหากเขาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเขาเองนั้น เขาจะทำให้สูญเสียหัวใจสิ่งสำคัญนี้ไปได้นั่นเอง จึงนับว่าเป็นหนึ่งในความลับที่ยังเป็นปริศนาดำมืด ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังมีหลายคนพยายามจะอ้างตัวเองว่า เขาผู้นั้นเป็นผู้สร้าง bitcoin แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า ใครกันแน่ที่เป็นซาโตชิตัวจริงเสียงจริง ก็เรานี่จะเป็นหนึ่งในความอัศจรรย์ของการสร้างสิ่งที่เหลือเชื่ออย่างสกุลเงินดิจิตอลในรูปแบบนี้เลยทีเดียว

รู้หรือยัง มูลค่าของ บิทคอยน์ นั้นเกิดจากอะไร

สิ่งนี้ก็น่าจะเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่หลายคนนั้นอยากจะรู้ว่ามูลค่าของ บิทคอยน์ นั้นเกิดจากอะไร โดยหัวใจหลักของ bitcoin นั้นก็คือมีมูลค่าได้มาจากความขาดแคลน อย่างที่บอกไปว่าจำนวนของ bitcoin นั้นจะมีอยู่จำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นไปตามทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์พื้นฐานอย่างเช่นอุปสงค์ และอุปทาน โดยเมื่อมีอุปทานอยู่อย่างจำกัด และลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่ความต้องการ หรืออุปสงค์ของ bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคา bitcoin นั้นมีการปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเอง โดยนอกจากนี้นั้นต้องบอกเลยว่า bitcoin ยังมีคุณสมบัติที่เหมือนสกุลเงินทั่วไปนั่นก็คือ สามารถที่จะแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยๆ ได้เพราะ 1 เหรียญ bitcoin นั้นสามารถที่จะแตกออกย่อยเป็นทศนิยมได้สูงสุดถึง 8 ตำแหน่งด้วยกันเลยทีเดียว ซึ่งจะถูกแทนที่ชื่อหน่วยย่อย ที่เรียกว่าซาโตชิ หรือเป็นหน่วยย่อยที่สุดของ bitcoin ที่เท่ากับ 0.00000001 BTC นั่นเอง

บิทคอยน์ กับเส้นทางของการก้าวเป็นสกุลเงินของโลก

โดยในปัจจุบันมีหลากหลายธุรกิจเป็นอย่างมากที่มีนโยบายเปิดรับ บิทคอยน์ ในการชำระค่าสินค้า และการบริการมากขึ้นเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น expedia ที่เปิดให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้ bitcoin ในการชำระค่าโรงแรม และตั๋วเครื่องบิน ตลอดจนบริการเสริมอย่างอื่น และผ่านแอปพลิเคชันได้แล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็น 1 ในก้าวแรกที่มีความคิดมองไกลถึงอนาคต อีกทั้งประเทศไทยก็ยังไม่น้อยหน้า เพราะจนถึงในปัจจุบันนี้ได้มีห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ได้เปิดรับสกุลเงินดิจิตอลกว่า 7 สกุล โดยมี bitcoin เป็นหนึ่งในนั้นในการแลกสินค้า และมีการเปิดให้ได้รับบัตรกำนัลแบบไม่มีค่าธรรมเนียมกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามที ยังมีรูปแบบของเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมเนื่องจากการขุดของ bitcoin นั้นต้องใช้พลังงานมหาศาลเป็นอย่างมากจากข้อมูลของ XRP Ledger เมื่อมีการกล่าวถึง bitcoin ว่าจะต้องใช้ไฟฟ้าต่อชั่วโมงมากถึง 951.58 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขณะที่เงินสดใช้ไฟฟ้า 0.044 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ส่วน master card ใช้ไฟฟ้าน้อยที่สุดเพียง 0.0006 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีประเด็นของจำนวนเหรียญที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งประเด็นดังกล่าวเหล่านี้นั้นจะทำให้ bitcoin กลายเป็นสกุลเงินในอนาคตได้หรือไม่ ก็คงจะต้องทำการติดตามกันต่อไปเลยนะแบบพลาดไม่ได้ แบบช็อตต่อช็อตกันเลยทีเดียว

ติดตามความเสี่ยงของ บิทคอยน์ สิ่งที่ทุกคนจะต้องมองให้ชัด

สำหรับความเสี่ยงของ บิทคอยน์ นั้น นอกจากจะเป็นแนวความคิดของความแปลกใหม่เมื่อเทียบกับการลงทุนแบบดั้งเดิม แต่ก็ยังผจญกับความเสี่ยงหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็น สล็อตเว็บตรง

ความเสี่ยงทางด้านกฎระเบียบ หากใครนั้นจะอยู่ในแวดวงของคริปโต หรือคริปโตเคอเรนซี่ ก็จะรู้ดีว่ายังมีกฎหมายของรัฐบาลอีกหลายประเทศที่ไม่ยอมเปิดรับ บิทคอยน์ สำหรับการใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเหมือนเงินสด แน่นอนว่าเริ่มต้นจากประเทศจีนถึงขนาดต่อต้านถึงขั้นกวาดล้างกันเลยทีเดียว และประกาศไว้ว่า bitcoin หรือตัวแค่นั้น เป็นสิ่งผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง ในทางกลับกันบางประเทศนั้นกลับมีการประกาศสนับสนุนคลิปโตในหลายๆ ด้านตัวอย่างเช่นประเทศ EL salvador นั้นไปเป็นหนึ่งในประเทศแรกของโลกที่อนุมัติให้บิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่สามารถใช้ชำระหนี้ทางกฎหมาย ควบคู่ไปกับดอลลาร์สหรัฐส่วนประเทศเกาหลีใต้ก็ยังมีการเพิ่มเข้าไป 1 ในหลักสูตรของประถมศึกษา และมัธยมศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสร้างโลกอนาคต และ bitcoin นั้นกลายเป็นเงินในอนาคตในที่สุดนั่นเอง

ความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัย สำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนทางด้าน บิทคอยน์ แล้วจะถามถึงความเสี่ยงสูงสุดนั้น เห็นจะได้แก่ความเสี่ยงจากแฮกเกอร์มัลแวร์ ซึ่งถ้าหากแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงรหัสส่วนตัวของกระเป๋าดิจิตอลของ bitcoin ได้แล้ว แน่นอนว่าพวกเขาสามารถที่จะโอน bitcoin ที่อยู่ในบัญชีนั้นไปยังบัญชีอื่นได้อย่างคาดไม่ถึง แต่อย่างไรก็ตามทีเราสามารถใช้ฮาร์ดแวร์ wallet คือเพิ่มความปลอดภัยกับกระเป๋าเงินที่ถูกต้องของเราได้แล้วในปัจจุบัน

ความเสี่ยงทางด้านตลาดการลงทุน โดยแน่นอนว่าสำหรับ บิทคอยน์ นั้นก็อาจจะเหมือนกับดังเช่นการลงทุนในสินทรัพย์อื่นอย่างทั่วไป โดยตลาดคริปโตเคอเรนซี่นั้นก็ยังมีความผันผวนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งราคา bitcoin นั้นเคลื่อนไหวรวดเร็วภายใน 1 วัน หรือแม้กระทั่งภายใน 1 นาทีก็ตามที ซึ่งแม้ว่าบางคนอาจจะกล่าวว่า bitcoin นั้นคือทองคำที่ชอบแต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้พิสูจน์เลยว่า ในการทำหน้าที่สินทรัพย์ปลอดภัยยามวิกฤติเช่นเดียวกับทองคำซึ่ง bitcoin นั้นจะมีความเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว และผันผวนสูงเป็นอย่างมาก จึงแน่นอนว่าจะเป็นการลงทุนชนิดหนึ่งที่มีความเสี่ยงในตัวไม่น้อยเลยทีเดียว และผู้ที่จะเข้าสู่วงการนี้ก็ควรที่จะคิดให้ดีไปต่อรองให้มากเป็นดีที่สุด

บทสรุป บิทคอยน์ โลกยุคใหม่ก้าวไปอย่างรวดเร็วที่ทุกคนต้องตามให้ทัน

บิทคอยน์ ในตอนนี้นั้นยังเป็นกระแสร้อนแรง และหลายท่านก็คงจะมีการติดตามข่าวสารดังกล่าวนี้อย่างสม่ำเสมอ แม้แต่ถ้าหากอยากจะเข้าสู่วงการลงทุน และการเข้าสู่สกุลเงินดิจิตอลดังกล่าวแล้วละก็ ควรจะมีการศึกษารายละเอียดให้แม่นยำ และตัดสินใจให้เด็ดขาดเลยนะ ก่อนที่จะเข้ามา เพราะคุณจะเป็นทั้งเศรษฐีขนาดย่อม และยาจกไปพร้อมกันก็เป็นได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.finnomena.com/planet46/what-is-bitcoin/